นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท จัดหางานเพอร์ซันแนล คอนซันแตนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ("บริษัท") เป็นผู้พัฒนาและเจ้าของเว็บไซต์ www.restaurantjobinthai.com ซึ่งถือเป็นบริการหนึ่งของบริษัท ("บริการ") เมื่อผู้ใช้งานสมัครบัญชีใช้งานของบริษัทผ่านเว็บไซต์ www.restaurantjobinthai.com จะถือว่าเป็นผู้ใช้งานบน เว็บไซต์ www.restaurantjobinthai.com ("ผู้ใช้งาน"หรือ “ท่าน”) และในการให้บริการแก่ท่าน บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน ดังนั้น บริษัทจึงมีจุดประสงค์ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งเกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่ รวมถึงเงื่อนไขต่างๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานที่บริษัทจะดำเนินการให้ท่าน ในฐานะผู้ใช้งานรับทราบ กรุณาอ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทอย่างรอบคอบเพื่อให้ท่านเข้าใจถึงหลักการและวิธีการใช้ข้อมูลดังกล่าว ในการที่ท่านใช้เว็บไซต์นี้ หรือนำข้อมูลจากเว็บไซต์นี้ไปใช้ ให้ถือว่าท่านยอมรับข้อตกลงที่จะปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้มีผลบังคับใช้กับการให้บริการของบริษัทเท่านั้น ไม่มีผลบังคับใช้กับบริการหรือเว็บไซต์อื่นๆ ที่อาจมีการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ www.restaurantjobinthai.com ซึ่งเป็นของบุคคลภายนอกที่บริษัทไม่มีอำนาจควบคุม และเป็นส่วนที่ผู้ใช้งานต้องทำความเข้าใจและศึกษาเกี่ยวกับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการใช้บริการหรือเว็บไซต์ดังกล่าวด้วยตนเอง

บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ได้ตลอดเวลาโดยการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะถูกประกาศไว้บนเว็บไซต์นี้และจะถือว่ามีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อบริษัทได้ประกาศไว้บนเว็บไซต์

คำนิยาม

บริษัท หมายถึง จัดหางานเพอร์ซันแนล คอนซันแตนท์ (ประเทศไทย) จำกัด

ใบสมัคร หมายถึง ใบสมัครที่ผู้ใช้งานที่ประสงค์จะหางานหรือสมัครงานทำขึ้นตามตำแหน่งงานที่ปรากฏหรือโฆษณาบนเว็บไซต์
ประวัติ หมายถึง ประวัติหรือข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานที่ประสงค์จะหางานหรือสมัครงาน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงประวัติการศึกษา ประสบการณ์การทำงานที่ถูกจัดทำโดยผู้ใช้งานดังกล่าว ซึ่งถูกจัดเก็บไว้ในระบบบนเว็บไซต์ โดยความยินยอมของเจ้าของข้อมูล
ผู้ใช้งาน หมายถึง ผู้ใช้งานที่ประสงค์จะหางานหรือสมัครงาน หรือ ผู้ใช้งานประเภทผู้ประกอบการ หรือ ผู้ใช้งานอื่น เช่น ผู้ลงโฆษณาผ่านเว็บไซต์

เว็บไซต์ หมายถึง www.restaurantjobinthai.com

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากผู้ใช้งาน

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งบริษัทได้รับข้อมูลโดนตรงและโดยอ้อมจากผู้ใช้งาน อาทิ

  • ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป อาทิ ชื่อ-นามสกุล เพศ รูปถ่าย อายุ วัน/เดือน/ปีเกิด ความสามารถ ผลงาน ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ลักษณะงานที่ต้องการ เอกสารแนบประกอบการสมัครงานอื่น ๆ ข้อมูลการติดต่อ อาทิ ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ เบอร์โทร อีเมล ไลน์ไอดี เฟสบุ๊ค หมายเลขระบุตำแหน่งคอมพิวเตอร์ (IP Address) ข้อมูลใบสมัครไฟล์เอกสารประวัติ อาทิ เรซูเม่ (Resume) ใบแสดงผลการศึกษา เอกสารแสดงผลงาน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชนหรือเอกสารประกอบการสมัครงานอื่น ๆ

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) คือ ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ เช่น ข้อมูลเชื้อชาติ ศาสนา ซึ่งบริษัทจะดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ

  • ข้อมูลการใช้บริการ อาทิ ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน รหัสผ่าน ประวัติการทำธุรกรรมต่างๆ ที่ผู้ใช้งานดำเนินการ เช่นประวัติการค้นหางานที่ประกาศรับสมัครงาน รวมถึง ความสนใจของต่างๆของผู้ใช้งาน

  • ข้อมูลทางเทคนิคและข้อมูลเชิงวิเคราะห์ อาทิ ข้อมูลการใช้งาน การตั้งค่าและการเชื่อมต่อบราวเซอร์ของอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานใช้ในการใช้บริการของบริษัท

  • ข้อมูลที่เก็บมาจากบริการของบุคคลที่สาม ท่านอาจเลือกเชื่อมต่อบัญชีผู้ใช้งานที่ท่านมีอยู่กับผู้ให้บริการอื่น (เช่น ผู้ให้บริการเครือข่ายสังคม Social Media) เพื่อทำให้ง่ายสำหรับการสร้างบัญชีผู้ใช้งานกับบริษัท ซึ่งหากท่านเลือกดำเนินการเช่นนั้น บริษัทจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่จำกัดจากผู้ให้บริการดังกล่าว เช่น ชื่อสกุลและที่อยู่อีเมล อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอยู่เสมอ

  • ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของบุคคลได้ บริษัทมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลโดยรวม เช่น ข้อมูลเชิงสถิติ ทั้งนี้ข้อมูลโดยรวมนั้นอาจได้มาจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของบุคคลได้ ตัวอย่างเช่น บริษัทอาจใช้ข้อมูลบางส่วนของท่านโดยทำให้ข้อมูลเป็นข้อมูลนิรนามเพื่อคำนวณอัตราของผู้ที่เข้าใช้งาน หรือทำข้อมูลเชิงสถิติต่าง ๆ

บริษัทตระหนักดีว่าข้อมูลที่นำมาใช้จะต้องไม่สามารถกลับมาระบุตัวตนได้ เมื่อใดก็ตามที่ข้อมูลสามารถกลับมาระบุตัวตนได้ บริษัทจะถือว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลส่วนบุคคลและต้องปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

วัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้และประมวลผลข้อมูลข้อมูลส่วนบุคคล

  • เพื่อการให้บริการแก่ผู้ใช้งาน อันรวมถึง เพื่อการยืนยันตัวตน เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้งาน เป็นต้น

  • เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย

  • เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ตามที่รัฐมอบหมายให้แก่บริษัท

  • เพื่อประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัท เช่น การรักษาความสัมพันธ์กับท่าน การยกระดับมาตรฐานการทำงานของบริษัท และการป้องกันหรือตรวจจับการกระทำผิดกฎหมายทุกประเภท เป็นต้น

  • เพื่อการวิเคราะห์ความสนใจของผู้ใช้งาน เพื่อให้สามารถเสนอสิทธิประโยชน์หรือบริการ ตามความสนใจของผู้ใช้ บริการได้มากขึ้น หรือ เพื่อการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างบริษัทและผู้ใช้งาน

  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการ ให้บริการสนับสนุนอื่นๆ เช่น การติดต่อสอบถามข้อมูลติชมแสดงความคิดเห็นหลังการบริการ หรือ การส่งคำร้องต่างๆ

วัตถุประสงค์ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อการให้บริการตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน ในกรณีดังนี้

  • บริษัทอาจมีความจำเป็นเปิดเผยให้แก่ผู้ให้บริการภายนอกของบริษัท ที่ได้รับการว่าจ้างจากบริษัทให้ช่วยเหลือสนับสนุนการให้บริการของบริษัท เช่น ที่ปรึกษา ผู้รับจ้างให้บริการ รวมถึงผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการประเมินการบริการของบริษัท เช่น Google Analytics ทั้งนี้บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

  • บริษัทอาจเปิดเผยด้วยการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระบบระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้บริการ ได้แก่ เซิฟเวอร์ของบริษัท

  • บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลด้วยความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการปกป้องและต่อสู้สิทธิ์ของบริษัทหรือเพื่อการป้องกันและตรวจสอบลักษณะการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของบริษัทโดยผู้ใช้งาน ในลักษณะต่างๆ โดยบริษัทจะดำเนินการดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

  • ในกรณีที่บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมาย หรืออยู่ภายใต้บังคับคำพิพากษา หรือคำสั่งของหน่วยงานราชการ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลให้แก่หน่วยงานดังกล่าว เพื่อเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ที่มีตามกฎหมาย

ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานตามวัตถุประสงค์ข้างต้น โดยบริษัทจะเก็บและรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานไว้ตลอดระยะเวลา ตราบเท่าที่ผู้ใช้บริการยังคงเป็นผู้ใช้งานของบริษัทอยู่ และบริษัทสงวนสิทธิ์เก็บข้อมูลไว้อีกเป็นระยะเวลา 3 ปีหลังจากผู้ใช้งานยกเลิกการใช้บริการ เพื่อประโยชน์ในการปกป้องและต่อสู้สิทธิต่างๆของบริษัท เว้นแต่ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดให้บริษัทมีหน้าที่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นระยะเวลาอื่น บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 3 ปี

มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม

บริษัทจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไขหรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจอันมิชอบ นอกจากนี้ บริษัทได้กำหนดแนวปฏิบัติภายในเพื่อกำหนดสิทธิในการเข้าถึงหรือการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูล ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะเพื่อความเหมาะสม ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

สิทธิของเจ้าของข้อมูล

บริษัทรับทราบ และเคารพสิทธิตามกฎหมายของผู้ใช้งาน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน ซึ่งได้แก่ สิทธิ ดังนี้

  • สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้เป็นปัจจุบันและถูกต้องและไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

  • สิทธิขอทราบและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ

  • สิทธิขอรับข้อมูล ขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น หรือขอรับข้อมูลที่บริษัทส่งหรือโอนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่สภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้

  • สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่นบุคคลของคุณ

  • สิทธิขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

  • สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ในกรณีเมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบ หรือ เมื่อข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็น

  • ถอนความยินยอมที่คุณให้ไว้กับเราเว้นแต่ จะมีข้อห้ามตามกฎหมายหรือตามสัญญาที่เป็นประโยชน์กับคุณ (ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของคุณจะไม่กระทบต่อการประมวลผลที่ชอบด้วยกฎหมายที่ได้ทำขึ้นก่อนการถอนความยินยอมนั้น)

ทั้งนี้ ผู้ใช้งานสามารถติดต่อมายังบริษัท เพื่อขอใช้สิทธิข้างต้นได้ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ บริษัทได้กำหนดไว้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และบริษัทจะพิจารณา และแจ้งผลการพิจารณาการ ขอใช้สิทธิ ให้ผู้ใช้งานทราบภายใน 30 วันนับแต่วันที่เราได้รับคำร้องขอดังกล่าว

ติดต่อเรา

บริษัท จัดหางานเพอร์ซันแนล คอนซันแตนท์ (ประเทศไทย) จำกัด

399 อาคารอินเตอร์เชนจ21 ชั้นแอล,ยูแอล ถ.สุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110
ช่องทางการติดต่อ: 02-2608454 / 082-3239444 / 081-8680461
อีเมล: restaurantjobinthai@gmail.com