ข้อควรรู้ก่อนไปทานโอมากาเสะ

อาหารญี่ปุ่นถือว่าเป็นอาหารยอดนิยมของคนทั่วโลก โดยเฉพาะคนไทยก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเห็นได้จากในเมืองไทยมีร้านอาหารญี่ปุ่นเยอะมากๆ  วันนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับวัฒนธรรมการกินอาหารญี่ปุ่นที่มีกำลังได้รับความนิยมอยู่ตอนนี้ นั่นคือ “โอมากาเสะ Omakase” 

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ “Omakase” มาจากคำว่า 任せる(makaseru) ซึ่งแปลว่ามอบความไว้วางใจ ดังนั้น คอร์สโอมากาเสะจึงเป็นการเชื่อใจเชฟว่าจะนำเสนอสิ่งที่เขาคิดว่าดีที่สุดในมื้อนั้นให้แก่เรา ดังนั้นแปลง่ายๆ ‘โอมากาเสะ’ คืออาหาร ‘ตามใจเชฟ’ โอมากาเสะแต่ละคอร์สประกอบด้วยนิกิริ ซาชิมิ และจานอื่น ๆ ที่แสดงความงดงามของวัตถุดิบประจำฤดูกาล  ซึ่งราคาของโอมากะเสะจะค่อนข้างแพง เนื่องจากใช้วัตถุดิบชั้นดี 

แนะนำการกินโอมากาเสะให้อร่อยและถูกต้องตามแบบฉบับญี่ปุ่น

การกินโอมากาเสะถือเป็นประสบการณ์การกินอาหารในแบบพรีเมียม ซึ่งเชฟจะปั้นซูชิ หรือปรุงอาหารในรูปแบบต่าง ๆ ที่คุณสามารถเห็นถึงขั้นตอนการทำ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วทางร้านจะรับลูกค้าจำนวนจำกัดในแต่ละวัน โดยแต่ละรอบจำเป็นต้องมีการสำรองที่นั่งล่วงหน้า นอกจากนี้ ลูกค้ายังต้องปฏิบัติตนให้เหมาะสม เพื่อให้เป็นไปตามมารยาทในการกินโอมากาเสะอีกด้วย

ข้อแนะนำสิ่งที่ควรทำ

1.จองโต๊ะล่วงหน้าก่อนเสมอ เนื่องจากร้านอาหารโอมากาเสะมักมีที่นั่งจำกัด และจัดเตรียมวัตถุดิบไว้ในจำนวนที่เพียงพอต่อผู้ที่สำรองที่นั่งไว้เท่านั้น 

2.ไปถึงร้านให้ตรงต่อเวลา ห้ามเลท ควรเผื่อเวลาเล็กน้อยเนื่องจากร้านอาหารโอมากาเสะมักเสิร์ฟอาหารตามลำดับ

3.แจ้งให้เชฟทราบว่าแพ้อาหารชนิดใด บอกเลยว่ากินอะไรได้ ไม่ได้บ้าง โดยเฉพาะอาหารที่แพ้ 

4.หยิบซูชิด้วยมือได้เลย การทานซูชิบางคำสามารถใช้มือได้เลย ไม่ต้องกลัวมือเลอะ เขามีผ้าเช็ดมือวางไว้ข้าง ๆ ให้อยู่แล้ว 

5.จิ้มเนื้อปลากับซอส  เวลาจิ้มโชยุให้ใช้ด้านปลาสัมผัสกับซอส ไม่ควรให้โดนตัวข้าว เพราะข้าวจะดูดซึมซอสมากเกินไปจนเสียรสชาติที่เชฟตั้งใจทำ

6.แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสุภาพเรียบร้อยเพื่อเป็นการให้เกียรติเชฟ และร้านอาหาร

7.โอมากาเสะจะเป็นการเสิร์ฟอาหารที่พอดีคำ จึงควรรับประทานอาหารทุกคำ เพื่อเป็นการให้เกียรติเชฟ และเพื่อไม่เป็นการเสียมารยาทในการทิ้งอาหารด้วย

8.ชื่นชมเชฟและรสชาติของอาหารหลังรับประทาน เพื่อเป็นการให้เกียรติเชฟ

 

ข้อควรหลีกเลี่ยง

1.ไม่ควรฉีดน้ำหอม หรือสูบบุหรี่ก่อนรับไปกินโอมากาเสะ เนื่องจากกลิ่นของน้ำหอม หรือบุหรี่อาจไปกลบกลิ่นของอาหาร และวัตถุดิบต่าง ๆ ทำให้ดื่มด่ำกับอาหารได้ไม่เต็มที่ และอาจเป็นการรบกวนผู้ร่วมโต๊ะอาหารคนอื่น ๆ ด้วย

2.ห้ามปรุงรสเองตามใจชอบ เพราะซูชิทุกคำปรุงมาอย่างดีด้วยฝีมือเชฟแล้ว ถ้าเราเผลอไปปรุงเอง ก็เหมือนจะบอกเชฟเป็นนัย ๆ เลยนะว่าฝีมือเชฟไม่อร่อย

3.อย่าทิ้งอาหารไว้นานเกินไป เพราะความอร่อยที่เชฟเสิร์ฟมาจะลดลง  **อย่ามัวแต่ถ่ายสตอรี ถ่ายรูป และไม่ควรถ่ายรูปหรือวิดีโอ โดยยังไม่ได้รับอนุญาตจากเชฟ

4.ไม่ควรพูดคุยหรือคุยโทรศัพท์ขณะรับประทานอาหาร และควรเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือตลอดมื้ออาหาร

5.อย่าโทรแคนเซิล เชฟจะเตรียมวัตถุดิบพอดีในแต่ละวันสำหรับเสิร์ฟลูกค้าในวันนั้น ๆ

6.ไม่ย้าย GETA (ที่วางซูชิ) หรือที่วางซูชิเพราะเชฟจะเสิร์ฟอาหารลงบน GETA


ขอบคุณที่มา Wongnai