ร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย : การเติบโตและการจ้างงาน

ตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากการสำรวจของเจโทรกรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2567 จำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นมีทั้งหมด 5,916 ร้าน เพิ่มขึ้น 165 ร้าน โดยมีอัตราเพิ่มขึ้น 2.9% จากปีที่แล้ว ซึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ 5 จังหวัดปริมณฑลและต่างจังหวัดซึ่งมั้งหมดนี้ได้รับแรงหนุนจากความนิยมของอาหารญี่ปุ่นในหมู่คนไทย การขยายตัวของธุรกิจแฟรนไชส์จากญี่ปุ่น และพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับอาหารเพื่อสุขภาพ ทั้งร้านซูชิ ราเมง อิซากายะ ไปจนถึงร้านอาหารระดับพรีเมียม จึงทำให้ร้านอาหารญี่ปุ่นเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

จำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย แม้ว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังมีการชะลอตัว เนื่องจากเศรษฐกิจของไทยที่ตอนนี้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง รวมถึงมีการแข่งขันจากร้านอาหารต่างๆสูงขึ้น  ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาการญี่ปุ่นเองต้องสร้างความได้เปรียบ เช่น คิดหาเคมเปญ โปรโมชั่นต่างๆ การปรับเมนูรวมถึงราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เป็นต้น
 
การเติบโตของร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย
ตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บางส่วนเกิดจากความนิยมในอาหารญี่ปุ่นที่หลากหลาย และความต้องการของผ้บูริโภค โดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นร้านซูชิ หรือ ร้านราเมง ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากที่นำเสนอด้วยการบริการและรสชาติแบบเดียวกับที่ญี่ปุ่น เป็นสิ่งที่บอกได้ดีว่าผู้บริโภคชาวไทยให้ความนิยมเพิ่มมากขึ้น  ไม่ว่าจะเป็นร้านซูชิ ราเมง หรืออื่นๆ จากญี่ปุ่นมาเปิดสาขาในไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งก็ได้รับความนิยมในกลุ่มคนไทยที่ชื่นชอบการทานอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบต่างๆ

ตัวอย่าง ร้านอาหารจากประเทศญี่ปุ่นที่มาเปิดในไทย เช่น

  • - TONKATSU AOKI ร้านทงคัตสึชื่อดังจากญี่ปุ่น เปิดสาขาแรกในประเทศไทยเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2024 ที่เซ็นทรัลเวิลด์ 
  • - Katsu Midori Sushi ร้านซูชิสายพานอันดับ 1 ในโตเกียว จากประเทศญี่ปุ่นสาขาแรกในไทย ที่เซ็นทรัลเวิลด์
  • - Fatboy Izakaya ร้านอิซากายะที่กำลังฮอตฮิตมาก
  • - Hikiniku To Come กับเมนูแฮมเบิร์กก้อนโต 3 ชิ้น

การจ้างงานในร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย

ปัจจุบันร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลจากสมาคมร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย (Japanese Restaurant Association of Thailand - JRAT) ร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยมีมากกว่า 5,000 แห่ง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี  จากสถานการณ์การเติบโตและการเพิ่มขึ้นของจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย ส่งผลให้เกิดความต้องการแรงงานและการจ้างงานในร้านอาหารญี่ปุ่นสูงขึ้นเช่นกัน โดยตำแหน่งที่เป็นที่ต้องการมาก ได้แก่

  • เชฟอาหารญี่ปุ่น (ซูชิเชฟ, เชฟเทปันยากิ, เชฟราเมง)

  • พนักงานครัว (ผู้ช่วยเชฟ, ผู้เตรียมวัตถุดิบ)

  • พนักงานเสิร์ฟ (พนักงานต้อนรับ, บริกร)

  • ผู้จัดการร้าน (Restaurant Manager)

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร้านอาหารระดับพรีเมียมต้องการเชฟที่มีทักษะสูง และบางร้านต้องการเชฟที่มีประสบการณ์จากญี่ปุ่น

ความท้าทายของการจ้างงานในร้านอาหารญี่ปุ่น แม้ว่าความต้องการแรงงานสูงขึ้น แต่มีปัญหาหลายประการที่ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นต้องเผชิญ ได้แก่

  • - ขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ  โดยเฉพาะเชฟอาหารญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์หายาก และต้องมีการฝึกอบรมเพิ่มเติม
  • - การแข่งขันด้านอัตราค่าจ้าง  ค่าจ้างแรงงานร้านอาหารเพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น
  • - อัตราการลาออกสูง  งานในร้านอาหารมีความกดดันสูง ทำให้พนักงานเปลี่ยนงานบ่อย
  • - ข้อจำกัดด้านวีซ่าสำหรับแรงงานญี่ปุ่น  บางร้านต้องการนำเชฟจากญี่ปุ่นเข้ามา แต่ติดปัญหากฎระเบียบเรื่องวีซ่า

การปรับตัวของผู้ประกอบการร้านอาหารญี่ปุ่น เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ร้านอาหารญี่ปุ่นต่างๆ ต้องมีการปรับตัวรวมถึงหากลยุทธ์ต่าง ๆ มาใช้เพื่อดึงดูดคนทำงาน เช่น
- เพิ่มสวัสดิการและเงินเดือน  เสนอค่าตอบแทนที่แข่งขันได้เพื่อดึงดูดพนักงาน
- ใช้เทคโนโลยีช่วยลดแรงงาน เช่น ระบบสั่งอาหารอัตโนมัติ หุ่นยนต์เสิร์ฟ
- ฝึกอบรมพนักงานภายในองค์กร  พัฒนาเชฟและพนักงานจากศูนย์ฝึกอบรมภายใน
- จ้างแรงงานต่างชาติ อาจจะต้องเริ่มจ้างแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา ลาว

แม้ว่าจะมีความท้าทาย แต่ตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยยังคงเต็มไปด้วยโอกาสสำหรับการเติบโต การสร้างงานและการจ้างงานจำนวนมาก